พบ ‘พนักงานติดโควิด-19’ HR ควรทำอย่างไร?

พบ ‘พนักงานติดโควิด-19’ HR ควรทำอย่างไร?





ท่ามกลางการตื่นตัวขององค์กรต่างๆ ต่อวิกฤตไวรัสโควิด-19  นอกจากมาตรการควบคุมอื่นๆ หลายที่จึงเริ่มมีมาตรการการทำงานที่บ้าน #WorkFromHome กันแล้ว  แต่เหตุสุดวิสัยก็อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเราจึงควรมีแผนรับมือ ถ้าหากมีพนักงานในองค์กรป่วยจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้

 

ข้อควรปฏิบัติ หากพบว่าพนักงานติดเชื้อไวรัสโควิด-19

  1. แยกผู้ป่วยออกจากสถานที่ทำงานให้หยุดงาน เข้ารับการรักษาโดยด่วน หากแพทย์อนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านเนื่องจากมีอาการไม่รุนแรง ควรให้ผู้ป่วยทำงานที่บ้านอย่างน้อย 14 วัน หรือจนกว่าตรวจไม่พบเชื้อ
  2. ประกาศชี้แจงมาตรการ องค์กรควรออกประกาศชี้แจงกรณีมีพนักงานติดเชื้อ เพื่อให้พนักงานคนอื่นๆหรือผู้ที่มาติดต่อในช่วงเวลานั้น มีการเฝ้าระวังตนเอง ออกมาตรการให้พนักงานทำงานที่บ้านหรือประชุมผ่านระบบ video conference
  3. Big Cleaning ที่ทำงาน ปิดสถานที่ทำงานที่ผู้ป่วยปฏิบัติงานหรือไปสัมผัส เพื่อดำเนินการฆ่าเชื้อและทำความสะอาด
  4. เคยใกล้ชิด ต้องเฝ้าระวัง 14 วัน ผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร (close contact) ควรเฝ้าระวังตนเองเป็นเวลา 14 วัน หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
  5. ใช้มาตรการเข้มงวดเมื่อกลับมาเปิดทำการ เมื่อมีการเปิดทำการปกติ ให้จัดตั้งจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิ จัดเตรียมแอลกอฮอล์ล้างมือ สวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์สิ่งของที่มีการใช้ร่วมกันบ่อยๆ

 

ที่มา :  กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม

 

 3318
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

การจัดการพนักงานที่ทำงานแบบกะเป็นงานที่ท้าทายสำหรับฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) เป็นอย่างมาก ด้วยลักษณะงานของพนักงานแบบกะ พนักงานบางราย ทำงานเวลาไม่ตรงกัน เลิกงานไม่ตรงกัน จะเห็นได้ว่า แค่ HR ต้องจัดการกับเงินเดือนพนักงานที่ทำงานกะปกติ ก็แทบปวดหัวกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว ไหนจะต้องอาศัยความแม่นยำและละเอียดอ่อนในการคำนวณเงินเดือน การคิดวันขาด ลา มา สายอีก ยิ่งถ้าเป็นองค์กรใหญ่ๆ นั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกันเลยทีเดียว ดังนั้น การที่มีตัวช่วยอย่างโปรแกรมเงินเดือน HRMI เข้ามาช่วย HR จัดการปัญหาต่างๆ ของพนักงานที่ทำงานแบบกะ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการบริหารจัดการเงินเดือนของพนักงาน  เพื่อลดความเสี่ยงคำนวณเงินเดือนผิดพลาด ซึ่งอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัทได้
หลายๆ องค์กรตั้งตัวชี้วัดความสำเร็จในเรื่องของการบริหารทรัพยากรบุคคลไว้ที่อัตราการลาออกของพนักงานในองค์กร โดยมีการกำหนดอัตรามาตรฐานไว้ที่อัตราเดียวกับอุตสาหกรรมบ้าง หรือกำหนดให้ดีกว่าปีที่ผ่านมาบ้าง แต่ผมยังไม่เคยเห็นองค์กรไหนที่กำหนดเป้าหมายอัตราการลาออกของพนักงานเท่า กับ 0 จริงๆ นะครับ
โปรแกรมบริหารงานบุคคล (Human Resource Management Information System หรือ HRMI) ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านเทคโนโลยีและการบริหารงานบุคคล รวมถึงรวบรวมระบบต่างๆ เข้าด้วยกัน ที่สามารถช่วยงาน HR ได้ เช่น ระบบสมัครงานออนไลน์ระบบลาออนไลน์ระบบฝึกอบรมพนักงาน,ระบบสวัสดิการ, ระบบประเมินผล เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการบุคคลและสร้างความยืดหยุ่นในการทำงาน และตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในโลกของการทำงานที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยแต่ละบบมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกๆ องค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็ก หรือ ขนาดใหญ่ จะสามารถดำเนินกิจการได้อย่างราบรื่น ล้วนต้องต้องทำงานภายใต้ข้อกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายบริษัท กฎหมายแรงงาน กฎหมายประกันสังคม กฎหมายภาษีอากร กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และหนึ่งกฎหมายที่สำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับนายจ้าง HR และพนักงานโดยตรง คือ กฎหมายแรงงาน

จากกฎหมายแรงงานในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2562) ในมาตราที่ 23 กำหนดว่า ให้นายจ้างกำหนดเวลาทำงานปกติ (Regular Working Times) ต่อวัน ไม่เกิน 8 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาพัก โดยให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักระหว่างการทำงานวันหนึ่งไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง หลังทำงานมาไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ได้ตามแต่ที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน หลายบริษัทจะนิยมกำหนดเวลาทำงานไว้ที่ 9 ชั่วโมง ซึ่งรวมเวลาพัก 1 ชั่วโมงด้วย เช่น กำหนดเวลาทำงานไว้ที่ 09.00 – 18.00 น. ตามเวลาทำงานปกติของคนทั่วไป หรือเวลา 22.00 – 06.00 น. ซึ่งจัดว่าเป็นการทำงานกะกลางคืน
ก่อนที่จะนำรายได้ต่างๆ มาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่ารายได้เป็นรายได้ประเภทไหน สามารถหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้เท่าไหร่ มีค่าลดหย่อนอะไรบ้าง
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์