Future of Recruitment อนาคตของการสรรหาที่ไม่มีวันเหมือนเดิม

Future of Recruitment อนาคตของการสรรหาที่ไม่มีวันเหมือนเดิม



กระบวนการสรรหาพนักงานใหม่ ที่ไม่ใช่แค่สำคัญมากขึ้น แต่ยังยากมากกว่าเดิม เพราะความต้องการของบริษัทไม่มีวันเหมือนเดิม หนำซ้ำผู้สมัครก็มีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมการสรรหามีการแข่งขันที่ดุเดือดมาก

บทความนี้จาก HR NOTE.asia จะมาพูดถึง Future of Recruitment อนาคตของการสรรหา ว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

1. ความหลากหลาย DEI&B แข็งแรงมากขึ้น

การยอมรับความหลากหลายทางสังคมเป็นสิ่งที่กำลังเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อทุกคนเห็นความสำคัญของความเป็นมนุษย์อยู่เหนืออคติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายทางเจเนอร์เรชัน เพศ เชื้อชาติ ทักษะความสามารถ ไปจนถึงทัศนคติความเชื่อ

ทั้งนี้ ความเป็นธรรมในการสรรหาเป็นสิ่งสำคัญในการคัดเลือกพนักงานใหม่มานาน และจะยิ่งเข้มแข็งมากขึ้นท่ามกลางการเติบโตทางความคิดของสังคม สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ Diversity, Equity, Inclusion and Belonging (DEI&B) ที่แต่เดิมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสรรหามานานแล้ว ก็จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น

รวมไปถึงการคัดเลือกพนักงานใหม่ก็จะพิจารณาว่า พนักงานคนนั้นยอมรับความหลากหลายมากน้อยเพียงใด เพราะมันไม่ใช่แค่ทักษะ แต่กลายเป็นสิ่งสำคัญที่พนักงานต้องมีด้วยซ้ำ

การยอมรับความหลายหลายจะทำให้เกิดสภาพแวดล้อมการทำงานก็ยังเป็นมิตรกับทุกคน ทุกกลุ่ม และทุกบทบาท ที่สำคัญยังส่งผลต่อประสิทธิภาพองค์กรด้วย ยกตัวอย่าง รายงานของ McKinsey ที่บอกว่า องค์กรที่มีผู้บริหารหลากหลายทางเพศมีแนวโน้มสร้างผลกำไรที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย 25 %

ไม่เพียงเฉพาะในมุมธุรกิจ ตามรายงาน Recruiter National Report 2021 พบว่า ผู้สมัครงานยังสอบถามถึงการยอมรับความหลากหลายในบริษัทเพิ่มขึ้นทุกปี และ 49% ของผู้สมัครพร้อมปฏิเสธร่วมงานทันทีหากองค์กรนั้นไม่มีนโยบายเกี่ยวกับความหลากหลาย DEI&B

อนาคตองค์กรจึงต้องผลักดันนโยบายเคารพความแตกต่างระหว่างกัน รับฟังความคิดเห็นที่มีทิศทางไม่เหมือนกัน และตัดสินทุกอย่างบนความยุติธรรม นั่นจะทำให้องค์กรเกิดประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมากที่สุด และส่งเสริมให้องค์กรมีศักยภาพได้ในที่สุด

2. ขับเคลื่อนการสรรหาด้วยข้อมูลและระบบอัตโนมัติ

ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า Data is the new oil หรือ ข้อมูลมีค่าดั่งน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลมากมายที่ทุกคนเข้าถึงได้ ฉะนั้นการทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์ของข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ จึงเป็นทักษะสำคัญสำหรับการสรรหายุคใหม่ สอดคล้องกับรายงาน Global Talent Trends 2020 ของ LinkedIn ที่บอกว่า HR มีทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มขึ้น 242% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ทุกวันนี้เหล่าผู้นำหลายองค์กร ก็ต้องการให้บุคคลากรในทีมมีกรอบความคิดเรื่องการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อรวบรวม วิเคราะห์ และใช้ประโยชน์จากสถิติมาใช้จัดหากระบวนการทำงานที่ตอบโจทย์ที่สุด เช่น ใช้สถิติตรวจสอบว่าส่วนใหญ่พนักงานขายจะเข้ามาทำงานนานเท่าไหร่จึงลาออก เพื่อเตรียมพร้อมในการสรรหาครั้งต่อไป

ในอนาคตข้อมูลและระบบอัตโนมัติจะเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้การสรรหาทรงพลังมากขึ้น กระบวนการทำงานง่ายขึ้น และคัดเลือกคนได้เหมาะสมที่สุด เช่น การสื่อสารแบบทั่วไปเป็นอุปสรรคในกระบวนการสรรหาเพราะใช้เวลานาน เสียเวลา และทำงานซับซ้อนโดยไม่จำเป็น หากมีระบบอัตโนมัติก็จะตอบโต้ได้ทันทีตามระบบที่กำหนดไว้

เทคโนโลยีข้อมูลจึงเป็นกุญแจสำคัญในการปรับปรุงการสรรหาบุคลากร จากการสำรวจในรายงาน Future of Recruitment พบว่า 68% ของผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหางาน ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญในการลงทุนเครื่องมือและเทคโนโลยีการสรรหาที่ดีกว่าเป็นอันดับ 1 ในอีก 5 ปีข้างหน้า


สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่ คลิ๊ก!!

 


ขอบคุณที่มา : th.hrnote.asia

 368
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ก่อนที่จะนำรายได้ต่างๆ มาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่ารายได้เป็นรายได้ประเภทไหน สามารถหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้เท่าไหร่ มีค่าลดหย่อนอะไรบ้าง
การอบรมพนักงาน เป็นกิจกรรมที่สำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงทักษะและความรู้ของพนักงานในองค์กร ให้มีศักยภาพมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือ HR จึงควรให้ความสำคัญในการวางแผนและดำเนินการอบรมกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับงานของพนักงานอย่างเป็นระบบ โดยการอบรมนี้อาจจะเป็นการฝึกฝนทักษะทั้งในทางเทคนิค การพัฒนาทักษะการสื่อสาร การบริหารเวลา หรือแม้กระทั่งการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำและการทำงานเป็นทีม เพื่อปรับตัว เรียนรู้ระบบการทำงานขององค์กร และนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาองค์กรให้ประสบความสำเร็จ ให้สำเร็จลุล่วงกับเป้าหมายที่องค์กรตั้งไว้
SMART คือหลักในการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและมีแนวทางปฎิบัติที่เป็นรูปธรรม ทำให้เห็นทิศทางในการปฎิบัติที่เข้าใจได้ง่าย และนำไปปฎิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคำว่า SMART นั้นเกิดมาจากแนวคิดดังนี้ ตลอดจนมีวิธีการปฎิบัติเพื่อการตั้งเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพ
ไหน ๆ แล้วได้ยินคำว่า KPI กันอยู่บ่อยครั้ง ในฐานะคนทำงานคงหลีกหนีเรื่องเหล่านี้ไม่พ้นอย่างแน่นอน เราลองมาดูไปพร้อม ๆ กันว่า ดัชนีชี้วัดความสำเร็จหรือ KPI ที่เราคุ้นเคยกันมานานนั้น จริง ๆ แล้วคืออะไรกันแน่ เป็นสิ่งที่น่ากลัวหรือต้องกังวลมากน้อยแค่ไหน ในเมื่อหลบไม่พ้นก็หาทางเผชิญหน้ากันแบบรู้จักฉันรู้จักเธอกันไปเลย
ก่อนที่เราจะลงลึกถึงความแตกต่างของสลิปเงินเดือนระหว่างพนักงานสัญญาจ้าง ฟรีแลนซ์ และพนักงานประจำ มาทำความเข้าใจความหมายของคำศัพท์เหล่านี้ก่อน
Agile - Way of Work เป็นการทำงานในทีมที่ประกอบไปด้วยบุคลากรจากหลายสายงาน โดยเน้นการสื่อสารระหว่างบุคคลเพื่อสร้างความเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้นและเปลี่ยนวิธีการทำงาน จากการกำหนดเป้าหมายระยะยาวแบบมุ่งไปครั้งเดียว เป็นแบบระยะสั้นๆ เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์