"5 วิธีรับมือ" สำหรับมนุษย์เงินเดือน เมื่อวิกฤตโควิด-19

"5 วิธีรับมือ" สำหรับมนุษย์เงินเดือน เมื่อวิกฤตโควิด-19

"5 วิธีรับมือ" สำหรับมนุษย์เงินเดือน เมื่อวิกฤตโควิด-19



จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่มีทีท่าที่จะลดลง โดยเฉพาะในไทยที่ในขณะนี้มีผู้ป่วยมากกว่า 100 รายแล้ว ทำให้สถานศึกษา สถานประกอบการและหน่วยงานบางแห่งเริ่มประกาศปิดชั่วคราว ที่สำคัญในช่วงรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อนๆ ก็คงจะเห็นข่าวที่ตลาดหุ้นไทยร่วงหนักจนต้องเซอร์กิตเบรกเกอร์หรือพักการซื้อขายหุ้นติดต่อกัน 2 วันติดใช่มั้ยครับ

นี่นับว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยเลยนะครับ

ที่พักการซื้อขายหุ้น 2 วันติดแบบนี้

ด้วยสถานการณ์แบบนี้ก็สะท้อนให้เห็นชัดเลยครับ ว่านอกจากเศรษฐกิจทั่วโลกจะป่วย เพราะพิษโควิด-19 ขณะนี้เศรษฐกิจไทยก็กำลังป่วย ไม่แพ้กัน

แล้วมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ต้องรับมืออย่างไรล่ะ?

วันนี้ บ.ก. aomMONEY ได้สรุป 5 คำแนะนำเพื่อเป็นไอเดียที่ดีที่เพื่อนๆ สามารถนำไปปรับใช้และรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ครับ

📌 1.วางแผนการลงทุนที่รัดกุมมากขึ้น

มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ หลายคนก็ซื้อหุ้น เพราะคาดหวังผลตอบแทนที่มากกว่า แต่ทว่าสถานการณ์แบบนี้จะมองหาหุ้นรายวัน ทำกำไรระยะสั้นในช่วงนี้ บ.ก.มองว่าดูจะเสี่ยงไปครับ ควรเบรคก่อนดีกว่า ฉะนั้นทางเลือกที่ดี คือ การกำหนดแผนการลงทุนใหม่ มองหาหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี กำหนดไปเลยว่า เดือนนี้จะใช้เงินกี่บาทในการซื้อ จะซื้อหุ้นอะไรบ้าง จำนวนเท่าไหร่ เน้นวางแผนระยะยาวหน่อยน่าจะดีกว่า หรือ ซื้อแบบ DCA น่าจะเป็นทางเลือกที่ลงตัวสุดสำหรับปีนี้ครับ

📌 2.บริหารรายรับ - จ่าย ให้ดี

หากสถานการณ์แพร่ระบาดรุนแรงขึ้นเป็นระดับ 3 เชื่อว่าทุกคนน่าจะออกไปกักตุนอาหารกัน (ซึ่งก็น่าจะเห็นข่าวกันบ้างแล้วใช่มั้ยครับ) และการซื้อของกักตุนเข้าบ้านจำนวนเยอะๆ ก็ต้องใช้เงินมากพอสมควร ทางเลือกแรกๆ ที่ทุกคนจะนึกถึง คือ การใช้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดมาใช้ในจับจ่ายแน่ ฉะนั้นเมื่อนำเงินอนาคตมาใช้ก่อน บ.ก.แนะนำว่าจะต้องคำนวนการชำระในรอบบิลเดือนหน้าให้ดีนะครับ

ขณะเดียวกัน ด้วยปัญหาเศรษฐกิจในสภาวะแบบนี้รายรับในช่วงนี้ สำหรับบางกลุ่มอาชีพอาจจะถูกปรับหรือได้รับรายได้ลดลง อย่าลืมคิดเผื่อหรือทำตารางรายรับรายจ่ายล่วงหน้าไว้เลยนะครับ เพราะเรายังไม่รู้ว่าการแพร่ระบาดจะทุเลาลงเมื่อไหร่

📌 3.ใช้สิทธิอันพึงประสงค์

ในที่นี้ aomMONEY หมายถึงการผ่อนปรนหนี้ ตามที่มาตรการ นาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตราการมา โดยทุกคนสามารถโทรไปสอบถามและใช้สิทธิดังกล่าวจากธนาคารที่เราเป็นลูกค้าได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ซึ่งการผ่อนปรนหนี้ aomMONEY มองว่าสามารถแก้ปัญหาระยะสั้นของทุกคนในเรื่องของรายจ่ายได้เป็นอย่างดี

📌 4.ประกันโควิด-19

การมองหาความคุ้มครองในสถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะปัจจุบันมีบริษัทประกันออกแผนประกันเพื่อคุ้มครองโดยครอบคลุมไปถึงไวรัสโคโรนาโควิด-19 ตลอดจนเพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้เอาประกันภัย ฉะนั้นแล้วมนุษย์เงินเดือนอย่างเราลงทุนซื้อไว้ ยังไงก็อุ่นใจไว้ก่อน ที่สำคัญราคาเบี้ยประกันก็ไม่แพงด้วย โดยบางค่ายมีราคเบี้ยเริ่มต้นแค่ 99 บาท ถูกกว่าไปตรวจโรงพยาบาลด้วยซ้ำ

📌5.สั่งสินค้าออนไลน์

ท่ามกลางสถานการณ์ที่แพร่ระบาดการเก็บตัวอยู่ในที่อยู่อาศัยเป็นทางเลือกที่ดี ฉะนั้นการสั่งสินค้าจำพวก อาหาร ของเครื่องใช้ ในขณะนี้ถือเป็นทางออกที่ลงตัวสุด ที่สำคัญมีผู้ให้บริการอย่างหลากหลายในยุคนี้ สะดวกสบาย อีกทั้งยังป้องกันการออกไปพบปะผู้คนจำนวนมากได้ดีอีกด้วย

และนี่คือ 5 วิธีรับมือสำหรับมนุษย์เงินเดือน เมื่อเศรษฐกิจโลกกำลังป่วย 5 คำแนะนำที่นำมาแชร์กันน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับมนุษย์เงินเดือนทุกคน ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ที่สำคัญห้ามลืมล้างมือ กินร้อน แยกมื้ออาหารของใครของมันด้วยนะครับ เพราะเป็นห่วงทุกคนทั้งสุขภาพกายและสุขภาพการเงิน

แหล่งที่มา : https://bit.ly/2UJDyyS


ProsoftHRMI
โปรแกรมบริหารทรัพยากรมนุษย์
โปรแกรมเงินเดือน
 616
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

การจัดการพนักงานที่ทำงานแบบกะเป็นงานที่ท้าทายสำหรับฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) เป็นอย่างมาก ด้วยลักษณะงานของพนักงานแบบกะ พนักงานบางราย ทำงานเวลาไม่ตรงกัน เลิกงานไม่ตรงกัน จะเห็นได้ว่า แค่ HR ต้องจัดการกับเงินเดือนพนักงานที่ทำงานกะปกติ ก็แทบปวดหัวกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว ไหนจะต้องอาศัยความแม่นยำและละเอียดอ่อนในการคำนวณเงินเดือน การคิดวันขาด ลา มา สายอีก ยิ่งถ้าเป็นองค์กรใหญ่ๆ นั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกันเลยทีเดียว ดังนั้น การที่มีตัวช่วยอย่างโปรแกรมเงินเดือน HRMI เข้ามาช่วย HR จัดการปัญหาต่างๆ ของพนักงานที่ทำงานแบบกะ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการบริหารจัดการเงินเดือนของพนักงาน  เพื่อลดความเสี่ยงคำนวณเงินเดือนผิดพลาด ซึ่งอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัทได้
หลายๆ องค์กรตั้งตัวชี้วัดความสำเร็จในเรื่องของการบริหารทรัพยากรบุคคลไว้ที่อัตราการลาออกของพนักงานในองค์กร โดยมีการกำหนดอัตรามาตรฐานไว้ที่อัตราเดียวกับอุตสาหกรรมบ้าง หรือกำหนดให้ดีกว่าปีที่ผ่านมาบ้าง แต่ผมยังไม่เคยเห็นองค์กรไหนที่กำหนดเป้าหมายอัตราการลาออกของพนักงานเท่า กับ 0 จริงๆ นะครับ
โปรแกรมบริหารงานบุคคล (Human Resource Management Information System หรือ HRMI) ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านเทคโนโลยีและการบริหารงานบุคคล รวมถึงรวบรวมระบบต่างๆ เข้าด้วยกัน ที่สามารถช่วยงาน HR ได้ เช่น ระบบสมัครงานออนไลน์ระบบลาออนไลน์ระบบฝึกอบรมพนักงาน,ระบบสวัสดิการ, ระบบประเมินผล เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการบุคคลและสร้างความยืดหยุ่นในการทำงาน และตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในโลกของการทำงานที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยแต่ละบบมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกๆ องค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็ก หรือ ขนาดใหญ่ จะสามารถดำเนินกิจการได้อย่างราบรื่น ล้วนต้องต้องทำงานภายใต้ข้อกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายบริษัท กฎหมายแรงงาน กฎหมายประกันสังคม กฎหมายภาษีอากร กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และหนึ่งกฎหมายที่สำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับนายจ้าง HR และพนักงานโดยตรง คือ กฎหมายแรงงาน

จากกฎหมายแรงงานในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2562) ในมาตราที่ 23 กำหนดว่า ให้นายจ้างกำหนดเวลาทำงานปกติ (Regular Working Times) ต่อวัน ไม่เกิน 8 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาพัก โดยให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักระหว่างการทำงานวันหนึ่งไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง หลังทำงานมาไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ได้ตามแต่ที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน หลายบริษัทจะนิยมกำหนดเวลาทำงานไว้ที่ 9 ชั่วโมง ซึ่งรวมเวลาพัก 1 ชั่วโมงด้วย เช่น กำหนดเวลาทำงานไว้ที่ 09.00 – 18.00 น. ตามเวลาทำงานปกติของคนทั่วไป หรือเวลา 22.00 – 06.00 น. ซึ่งจัดว่าเป็นการทำงานกะกลางคืน
ก่อนที่จะนำรายได้ต่างๆ มาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่ารายได้เป็นรายได้ประเภทไหน สามารถหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้เท่าไหร่ มีค่าลดหย่อนอะไรบ้าง
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์