Headhunter คืออะไร?

Headhunter คืออะไร?


Headhunter คือผู้เชี่ยวชาญด้านการสรรหาที่ติดต่อกับบริษัทต่าง ๆ เพื่อที่จะช่วยพวกเขาจัดหา คัดกรอง และจบด้วยการจ้างผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดมาเป็นพนักงาน Headhunter ทำงานให้กับบริษัทที่กำลังมองหาพนักงาน ไม่ได้ทำงานให้กับตัวพนักงาน เพราะว่าพวกเขาได้รับเงินจ้างจากบริษัทผู้จ้างสำหรับการบริการเท่านั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ และในประเทศไทย รัฐบาลไทยก็ห้ามไม่ให้บริษัทจัดหางานคิดเงินกับตัวผู้สมัครโดยเด็ดขาด และยังต้องเป็นบริษัทจัดหางานที่ถูกกฎหมาย

Headhunter มีกี่ประเภท? Headhunter มีสองแบบ

  • แบบ Contingency คือแบบที่จะได้รับค่าตอบแทนก็ต่อเมื่อจัดหาพนักงานและถูกจ้างตามที่บริษัทลูกค้าต้องการ

  • แบบ Retained มักจะเป็นผู้ปรึกษาด้านจัดหางานที่หน้าเชื่อถือสำหรับตัวบริษัทลูกค้าและมักจะมีสัญญาระยะยาวกับตัวบริษัท พวกเขาจะได้รับค่าตอบแทนทุก ๆ ปีเพื่อทำหน้าที่เป็นฝ่ายสรรหาพนักงานของบริษัทนั้น ดังนั้น Headhunter แบบ Retained สามารถได้รับค่าตอบแทนโดยที่ไม่ได้หาพนักงานให้กับบริษัทลูกค้าเลย​

บริษัทจัดหางานไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกประเภทของ Headhunter ประเภทใดประเภทหนึ่ง พวกเขาสามารถเลือกที่จะเป็นประเภท Contingency กับบริษัทลูกค้านึง และเลือกประเภท Retainer กับอีกบริษัทลูกค้า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างตัวบริษัทจัดหางานกับบริษัทลูกค้า และความยากในการตำแหน่งงานที่พวกเขาทำในนามของลูกค้า

จะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่เราจึงควรใช้ Headhunter?

บริษัทส่วนใหญ่ใช้ Headhunter กับงานในทุกๆระดับ แต่การใช้ให้เหมาะสม คือในเวลาที่ต้องหาตำแหน่งที่มีสูงกว่าระดับผู้จัดการ หากตามหาพนักงานที่ตำแหน่งต่ำกว่านั้น จะถือว่าเป็นการเสียเวลาเปล่าในการลงทุนเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับหัวหน้างานนั้นๆ

Headhunter ส่วนใหญ่จะไม่อยากเสียเวลากับคุณถ้าหาก

  • รายได้จากงานจ้างที่ไม่สูงพอ

  • ประสบการณ์ทำงานของตัวผู้สมัครงานไม่ได้โดดเด่นหรือแตกต่างไปจากคนทั่วไป

  • การหางานจ้างให้งานระดับพนังงานทั่วไป ส่วนมากจะใช้เป็นสัญญาประเภท Contingence เวลาที่ Headhunter ติดต่อคุณไปเพราะเจองานที่เหมาะกับตัวคุณ และเพื่อไม่พลาดโอกาสในตำแหน่งงานใหม่ๆสำหรับคุณ ที่สำคัญที่สุด Headhunter ต้องการข้อมูลที่จริงที่สุดจากตัวคุณ เพราะเราอยากให้คุณได้ทำงานที่คุณรักและมีความสุขกับงานที่สุด

จะใช้ Headhunter อย่างไรให้ได้ผลตอบรับดีที่สุด ?

อย่างแรกเริ่มจากการสร้างความสัมพันธ์ ช่วงเวลาที่คุณกำลังมองหางานเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์กับ Headhunter ซึ่งเวลานั้นคือตอนที่คุณไม่ได้ต้องการย้ายงาน หรือ รีบมองหางานใหม่อยู่ เลือกเพียงแค่ไม่กี่คนในการสานสัมพันธ์ด้วย เพราะคุณก็ไม่ได้มีเวลามากเพื่อเลือกคนที่ดีที่สุดที่จะพาคุณไปถึงจุดที่คุณใฝ่ฝันได้ หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ Headhunter คือการที่คุณหาคนรู้จักที่เหมาะสมกับงานที่ถูกเสนอให้กับ Headhunter ในงานที่คุณรู้สึกว่าไม่เหมาะกับตัวของคุณ

การที่เราต้องการจะให้ใครบางคนช่วยเหลือเรา เราควรจะพูดกับคนๆด้วยวิธีไหน? ใช่แล้วทุกๆคนอยากได้รับคำพูดดีๆ Headhunter ก็เช่นกัน ไม่มีใครรู้อนาคตได้ว่าจะเป็นอย่างไร คุณอาจะได้เจองานที่เหมาะสมกว่าปัจจุบันที่ทำอยู่ก็เป็นได้ Headhunter จะบันทึกอีเมลและข้อมูลของคุณเผื่อต้องการที่จะติดต่อกลับไปในภายหลัง โดยทั่วไปแล้ว ความจริงใจหรือการผิดนัดเป็นสิ่งที่เราทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับการทำงานของทางเรา

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ Headhunter จะอยู่ข้างคุณเสมอ แค่คุณยื่นมือเข้ามาให้เราช่วยเหลือในเวลาที่คุณหางาน อย่างเช่นส่งอีเมลล์เจาะจงให้ได้มากที่สุด ว่าคุณกำลังมองหาอะไรอยู่และคุณสมบัติของคุณมีอะไรบ้างไปแทนที่จะส่งไปหลายๆอีเมลล์เพราะเราได้รับอีเมลล์เป็นจำนวนมาก อีเมลล์ที่กระชับและรวบรวมความเป็นตัวคุณจะทำให้เราจำคุณได้ดีที่สุด ถ้าให้ดีขึ้นไปอีกคุณสามารถถามถึงตำแหน่งที่พวกเขามีอยู่ หรือถามหา Headhunter เจ้าอื่นหากเขายังไม่มีตำแหน่งที่เรากำลังหาอยู่เพื่อให้เขาเห็นว่าคุณมีความสนใจและอยากได้งานประเภทนั้นๆจริงๆ

Headhunter ในแต่ละบริษัทมีวิธีการทำงานที่แต่งต่างกัน บางคนเพียงแค่ต้องการจำนวนผู้สมัครจำนวนมาก เพื่อที่จะส่งผู้สมัครนั้นๆให้ลูกค้า และหวังว่าลูกค้าจะสนใจสักคน นี้จะเป็นพวกบริษัทที่คุณสามารถพบเห็นได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็นบนหนังสือพิมพ์หรือพวกเว็บไซต์หางานต่างๆ เพราะว่านี่เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายที่สุดของ Headhunter แบบ Contingency พวกเขาจะส่งอีเมลแบบกว้าง ๆ ทำให้อ่านไม่เข้าใจว่าทางบริษัทกำลังตามหาอะไรอยู่ และจะไม่เป็นตัวแทนที่ดีให้คุณ ซึ่งถ้าคุณพบ Headhunter ที่มีความคล้ายคลึงกับที่เรายกตัวอย่างไปข้างต้นพยายามหลีกเลี่ยงที่จะใช้บริการของเขาเหล่านั้น

เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วว่าอยากหางาน ความชัดเจนในการเลือกบริษัทจัดหางาน, Headhunter, หรือหางานออนไลน์ก็ควรที่มีความชัดเจนไม่ต่างกัน หากคุณรู้จักคนในบริษัทที่คุณอยากทำงานด้วยอยู่แล้ว หรือต้องการจะสมัครกับทางบริษัทโดยตรง อย่างน้อยคุณควรบอก Headhunter ของคุณเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้น Headhunter ของคุณอาจจะสมัครงานให้คุณซ้ำกันกับที่คุณเคยสมัครไปแล้วก็เป็นได้ บริษัทจัดหางานแต่ละบริษัทความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่ที่คุณว่าจะหาและใช้ Headhunter ที่เหมาะกับคุณหรือเปล่า การที่บริษัทจัดหางานใหญ่ๆติดต่อมา ไม่ได้หมายความว่ามันจะดีกว่าหรือแย่กว่าบริษัทเล็กๆเสมอไป เพราะว่าการที่มีคนน้อยบริษัทเล็กแต่ทุกคนเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอย่างเดียวกันมากๆ ก็อาจะเป็นอีกทางเลือกนึงที่น่ารับไว้พิจารณาอีกทางนึงก็ได้

สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่ คลิ๊ก!!


ที่มา : www.ssrecruitment.com

 999
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดิการที่องค์กรมอบให้แก่พนักงาน กับ สวัสดิการที่พนักงานต้องการ นั้น บางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ตรงกัน ส่วนบางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ต่างความเห็นกัน ในเรื่องนี้จากทาง Jobthai (jobthai.com) เคยทำบทความนำเสนอผลการสำรวจความคิดเห็นจากคนทำงานทั่วประเทศในประเด็นที่ว่า “สวัสดิการที่คนทำงานต้องการจากองค์กร” ซึ่งเป็นการทำผลสำรวจจากคนทำงานที่เป็นพนักงานทั่วไปจำนวน 7,420 คน ทั่วประเทศ โดยมีผลการสำรวจออกมาดังนี้
เคยได้ยินคำว่า Flexible Time กันอยู่บ่อย ๆ ว่าแต่เอ๊ะ มันคืออะไร ??
AQ หรือ Adversity Quotient คือความฉลาดในการรับมือกับปัญหา ทั้งสภาพกาย และจิตใจ ถูกบัญญัติขึ้นโดยพอล สโตลทซ์ (Paul Stoltz) เมื่อปี 1997 ว่า เป็นวิธีการประเมินความสามารถของแต่ละคนในการรับมือ และตอบสนองต่อความทุกข์ยาก โดยสถาบันชั้นนำอย่างฮาร์วาร์ด (Harvard), สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT) และคาร์เนกีเมลลอน (Carnegie Mellon) ต่างก็ใช้ AQ เป็น ‘Golden Standard’ เพื่อประเมินว่า คนนั้นๆ จัดการกับความท้าทายอย่างไรด้วยกันทั้งสิ้น และยังค้นพบอีกด้วยว่า AQ มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ ‘การเป็นผู้นำที่ดี’
การวางแผนอัตรากำลังคน (Manpower Planning) หรือ การวางแผนกำลังคน คือ กระบวนการในการคาดการณ์ หรือการวิเคราะห์ จำนวนความต้องการกำลังคนขององค์กร ประเภทพนักงานที่มีความสามารถเหมาะสมที่จะมาปฏิบัติงานให้พอเพียงกับการเปลี่ยนแปลง การขยายตัว หรือลดขนาดองค์กร เพื่อความเหมาะสมของขนาดองค์กร ตามความต้องการของธุรกิจให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่องค์กรได้กำหนดไว้
ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า "Face recognition" หรือ ระบบจดจำใบหน้า อย่างกว้างขวาง รวมไปถึงการนำไปใช้กับซอฟต์แวร์ในระบบ HR ในการสแกนใบหน้าเพื่อลงเวลาเข้า-ออกงานที่ออฟฟิศ เพื่อบันทึกประวัติการทำงานของพนักงาน ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน คำนวณเงินเดือน รวมไปถึงการประเมินต่างๆ
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามประมวลรัษฎากร เป็นภาษีทางตรงประเภทหนึ่งที่สำคัญมากเพราะเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาล และเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลในการกระจายรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นภาษีที่เรียกเก็บจากบุคคลธรรมดา ที่มีรายได้ประเภทใดประเภทหนึ่งนั่นเองฐานภาษีของภาษีนี้ รียกว่า เงินได้สุทธิ ซึ่งคำนวณได้จากการนำเงินได้พึงประเมินตลอดทั้งปี ภาษี (ปฏิทิน) ไปหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่าง ๆ ที่กฎหมายให้หัก เมื่อได้จำนวนเงินได้สุทธิเท่าใดแล้ว จึงคำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิตามอัตราและวิธีการที่กฎหมายกำหนด ถ้ามีเงินได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่มีเงินได้สุทธิเหลือ ก็ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งนี้ เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายเป็นอย่างอื่นสำหรับวิธีการเสียภาชี โดยทั่วไปกฎหมายให้ผู้มีเงินได้ในปีภา (ปีปฏิทิน) ที่ถ่วงมาแล้ว มีหน้าที่ขึ้นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมประเมินตนเอง ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสถานที่อื่นที่กฎหมายกำหนด ภายในวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม ของปีถัดจากปีที่มีเงินได้(ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสิ้นปี) นอกจากผู้มีเงินได้จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นราชปีแล้ว บางกรณีกฎหมายยังกำหนดให้ผู้มีเงินได้ต้องหักภาษีก่อนถึงกำหนดเวลาด้วยลักษณะของกำไรที่มีคุณภาพกำไรที่มีคุณภาพควรพิจารณาว่ามีลักษณะดังต่อไปนี้
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์