"ความรู้เกี่ยวกับการจ้างงาน นักศึกษาฝึกงาน"

"ความรู้เกี่ยวกับการจ้างงาน นักศึกษาฝึกงาน"


แน่นอนว่าทุกบริษัทจะต้องมีนโยบายในการจ้างนักศึกษาฝึกงาน โดย HR มักจะขาดความเข้าใจว่าการจ้างนักศึกษาฝึกงานเข้ามาทำงาน ทั้งที่ให้ค่าตอบแทน หรือ ไม่ให้ค่าตอบแทนนั้น สำหรับ กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงานถือว่าเป็นหนึ่งในลูกจ้างที่บริษัทจะต้องรับผิดชอบและดำเนินการต่าง ๆ ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานฯ

เรื่องของการรับนักศึกษาฝึกงาน เพื่อมาฝึกงานในบริษัท, เมื่อหน่วยงานใดมีความต้องการรับนักศึกษาฝึกงานก็จะมาแจ้งกับทาง HR, และ HR ก็ จะใช้ช่องทางต่างๆในการ ประชาสัมพันธ์ ได้แก่ การลงประกาศรับตามสื่อต่างๆ โครงการสหกิจศึกษา โครงการแนะแนวอาชีพ เป็นต้น

สำหรับการรับนักศึกษาฝึกงานนั้นจะมี 2 ส่วนด้วยกัน คือ

  1. เข้าโครงการสหกิจศึกษา / เพื่อฝึกปฏิบัติงานจริง ก่อนที่จะจบการศึกษา ที่จริงแล้วกระทรวงแรงงานเขามี “ประกาศเรื่องหลักเกณฑ์เกี่ยวกับความคุ้มครองผู้รับการฝึกเตียมเข้าทำงาน” ตั้งแต่ปี 2546

ตามประกาศกรมคุ้มครองแรงงานฯ นั้น บริษัทจะต้องจ่ายค่าฝึกงานไม่ต่ำกว่า 50% ของค่าจ้างขั้นต่ำอัตราสูงสุด และยังต้องประกันอุบัติเหตุจากการฝึกงานให้นักศึกษาไม่ต่ำกว่าที่กำหนดในกฎหมาย พระราชบัญญัติเงินทดแทน

  1. การรับนักศึกษาฝึกงานมาทำงานพาร์ทไทม์เพื่อส่งเสริมด้านอาชีพ (โครงการนี้ มีประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง ได้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไว้) ซึ่งนายจ้างต้องปฏิบัติตามเช่นกัน

                ทั้งนี้ HR สามารถศึกษาข้อมูลการจ่ายเงินอัตราค่าจ้างของนักศึกษาฝึกงาน ได้อย่างถูกต้องตาม Link ด้านล่างค่ะ

 

ขอบคุณที่มาดี ๆ จาก ::

** http://legal.labour.go.th/attachments/article/163/41997_60.pdf

** http://www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFOCENTER22/DRAWER039/GENERAL/DATA0000/00000054.PDF

**https://www.facebook.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89-HR-105577534122729/photos/pcb.688480949165715/688480715832405

#เพจ_ความรู้HR

 

 10403
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดิการที่องค์กรมอบให้แก่พนักงาน กับ สวัสดิการที่พนักงานต้องการ นั้น บางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ตรงกัน ส่วนบางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ต่างความเห็นกัน ในเรื่องนี้จากทาง Jobthai (jobthai.com) เคยทำบทความนำเสนอผลการสำรวจความคิดเห็นจากคนทำงานทั่วประเทศในประเด็นที่ว่า “สวัสดิการที่คนทำงานต้องการจากองค์กร” ซึ่งเป็นการทำผลสำรวจจากคนทำงานที่เป็นพนักงานทั่วไปจำนวน 7,420 คน ทั่วประเทศ โดยมีผลการสำรวจออกมาดังนี้
เคยได้ยินคำว่า Flexible Time กันอยู่บ่อย ๆ ว่าแต่เอ๊ะ มันคืออะไร ??
AQ หรือ Adversity Quotient คือความฉลาดในการรับมือกับปัญหา ทั้งสภาพกาย และจิตใจ ถูกบัญญัติขึ้นโดยพอล สโตลทซ์ (Paul Stoltz) เมื่อปี 1997 ว่า เป็นวิธีการประเมินความสามารถของแต่ละคนในการรับมือ และตอบสนองต่อความทุกข์ยาก โดยสถาบันชั้นนำอย่างฮาร์วาร์ด (Harvard), สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT) และคาร์เนกีเมลลอน (Carnegie Mellon) ต่างก็ใช้ AQ เป็น ‘Golden Standard’ เพื่อประเมินว่า คนนั้นๆ จัดการกับความท้าทายอย่างไรด้วยกันทั้งสิ้น และยังค้นพบอีกด้วยว่า AQ มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ ‘การเป็นผู้นำที่ดี’
การวางแผนอัตรากำลังคน (Manpower Planning) หรือ การวางแผนกำลังคน คือ กระบวนการในการคาดการณ์ หรือการวิเคราะห์ จำนวนความต้องการกำลังคนขององค์กร ประเภทพนักงานที่มีความสามารถเหมาะสมที่จะมาปฏิบัติงานให้พอเพียงกับการเปลี่ยนแปลง การขยายตัว หรือลดขนาดองค์กร เพื่อความเหมาะสมของขนาดองค์กร ตามความต้องการของธุรกิจให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่องค์กรได้กำหนดไว้
ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า "Face recognition" หรือ ระบบจดจำใบหน้า อย่างกว้างขวาง รวมไปถึงการนำไปใช้กับซอฟต์แวร์ในระบบ HR ในการสแกนใบหน้าเพื่อลงเวลาเข้า-ออกงานที่ออฟฟิศ เพื่อบันทึกประวัติการทำงานของพนักงาน ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน คำนวณเงินเดือน รวมไปถึงการประเมินต่างๆ
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามประมวลรัษฎากร เป็นภาษีทางตรงประเภทหนึ่งที่สำคัญมากเพราะเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาล และเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลในการกระจายรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นภาษีที่เรียกเก็บจากบุคคลธรรมดา ที่มีรายได้ประเภทใดประเภทหนึ่งนั่นเองฐานภาษีของภาษีนี้ รียกว่า เงินได้สุทธิ ซึ่งคำนวณได้จากการนำเงินได้พึงประเมินตลอดทั้งปี ภาษี (ปฏิทิน) ไปหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่าง ๆ ที่กฎหมายให้หัก เมื่อได้จำนวนเงินได้สุทธิเท่าใดแล้ว จึงคำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิตามอัตราและวิธีการที่กฎหมายกำหนด ถ้ามีเงินได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่มีเงินได้สุทธิเหลือ ก็ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งนี้ เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายเป็นอย่างอื่นสำหรับวิธีการเสียภาชี โดยทั่วไปกฎหมายให้ผู้มีเงินได้ในปีภา (ปีปฏิทิน) ที่ถ่วงมาแล้ว มีหน้าที่ขึ้นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมประเมินตนเอง ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสถานที่อื่นที่กฎหมายกำหนด ภายในวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม ของปีถัดจากปีที่มีเงินได้(ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสิ้นปี) นอกจากผู้มีเงินได้จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นราชปีแล้ว บางกรณีกฎหมายยังกำหนดให้ผู้มีเงินได้ต้องหักภาษีก่อนถึงกำหนดเวลาด้วยลักษณะของกำไรที่มีคุณภาพกำไรที่มีคุณภาพควรพิจารณาว่ามีลักษณะดังต่อไปนี้
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์