พนักงานรักองค์กร หรือ ไปไหนไม่ได้กันแน่

พนักงานรักองค์กร หรือ ไปไหนไม่ได้กันแน่



ทุกองค์กรย่อมอยากที่จะให้พนักงานของตนนั้น มีความรักองค์กร ซึ่งความรักองค์กรนั้น คนส่วนใหญ่มักจะมองจากการที่พนักงานอยู่ทำงานกับบริษัทนานๆ ไม่เปลี่ยนงาน หรือย้ายงานไปไหน ยังคงอยู่ทำงานกับองค์กรไปเรื่อยๆ จนเกษียณอายุ

ประเด็นก็คือ การที่พนักงานไม่ลาออกจากองค์กรเลยนั้น แปลว่า พนักงานคนนั้นรักองค์กรจริงๆ หรือ หรือแปลว่า พนักงานคนนั้น ไม่สามารถที่จะไปไหนได้กันแน่

ลักษณะของพนักงานที่รักองค์กรจริงๆ เป็นอย่างไรบ้าง

• เสนอแนวทางการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานที่ดีขึ้นอยู่เสมอ พนักงานที่มีความรักต่อองค์กรจริงๆ นั้น ไม่ใช่แค่เพียงอยู่นานเท่านั้น ยังเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง มักจะชอบคิดอะไรใหม่ๆ และนำเสนอสิ่งที่ดีขึ้นๆ ให้กับบริษัทเสมอ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำงานแบบใหม่ๆ ระบบงานใหม่ๆ หรือเครื่องมือในการทำงานใหม่ๆ ที่จะทำให้งานของตน และของบริษัทพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่อง

• เปลี่ยนปลงตนเองอยู่เสมอ พนักงานที่รักองค์กรจริงๆ มักจะเป็นคนที่ชอบการเปลี่ยนแปลง เวลามีอะไรดีๆ ต่อองค์กร ไม่ว่าจะเป็นระบบงานใหม่ๆ เข้ามา ก็มักจะชอบ และยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองให้เข้ากับระบบงานใหม่ๆ อยู่เสมอ ผิดกับพนักงานที่อยู่ทำงานนานๆ และอ้างว่ารักองค์กร ก็มักจะชอบต่อต้านการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่มีผลกระทบต่อการทำงานของตนเอง เรียกว่า อย่ามาทำให้ตนเองต้องมีความยุ่งยากในการทำงาน หรือต้องเปลี่ยนแปลงตนเองในการทำงานเลย

• องค์กรมีปัญหามักจะเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา พนักงานที่มีความรักองค์กรจริงๆ มักจะเป็นคนที่ชอบเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในเวลาที่องค์กรเกิดปัญหาต่างๆ ขึ้น โดยที่ไม่ต้องสั่งการอะไร พนักงานคนนี้ก็จะเสนอแนวทาง แนวคิดต่างๆ ในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งบางครั้งก็ยอมที่จะเสียสละเวลา หรือทรัพยากรบางอย่างที่เป็นของส่วนตัว เพื่อมาทำให้องค์กรดีขึ้น

• ทุ่มเททำงานให้กับองค์กรอย่างเต็มที่ คนที่รักองค์กรจริงๆ มักจะทำงานทุ่มเทให้กับองค์กร แบบว่า ไม่สนใจว่าจะได้เงินเดือนเท่าไหร่ สิ่งที่ทำให้กับองค์กรนั้นมักจะทำเกินกว่าเงินเดือนที่ได้รับอยู่เสมอ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่มักจะให้ความช่วยเหลือแก่คนอื่นๆ ในองค์กรอยู่เสมอ โดยที่ไม่มีข้ออ้างว่า ธุระไม่ใช่ หรือนี่ไม่ใช่หน้าที่ความรับผิดชอบของตน

• ภูมิใจในความสำเร็จขององค์กร พนักงานที่รักและผูกพันกับองค์กรนั้น มักจะรู้สึกภาคภูมิใจไปกับองค์กรเวลาที่องค์กรประสบความสำเร็จในการทำงาน และจะรู้สึกแย่ รวมทั้งคอยปกป้ององค์กร เวลาที่มีใครมาด่าว่า หรือพูดถึงองค์กรในทางที่เสียหาย ผิดกับพนักงานที่อยู่ไปเรื่อยๆ แต่อ้างว่ารักองค์กร เวลาที่องค์กรประสบความสำเร็จอะไร ก็ไม่ค่อยจะสนใจ และใส่ใจ บางรายไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า องค์กรประสบความสำเร็จในเรื่องอะไรบ้าง อีกทั้งเวลาที่มีคนอื่นมาให้ร้ายองค์กร ก็มักจะเข้าร่วมนินทาให้ร้ายองค์กรไปกับเขาด้วย ทั้งๆ ที่ตนเองก็ทำงานอยู่ในองค์กรนี้

ส่วนพนักงานที่อยู่นานอย่างเดียว และอ้างว่ารักองค์กร ส่วนใหญ่ก็มักจะมีพฤติกรรมตรงข้ามกับข้างต้นที่กล่าวมา แต่หลักๆ ก็น่าจะมีดังนี้

• อยู่นาน แต่ไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร เป็นประเภทกลัวว่าการเปลี่ยนแปลงจะทำให้ตนเองต้องยุ่งยาก และลำบากมากขึ้นในการทำงาน ทำงานแบบเดิมๆ มันก็ดีอยู่แล้ว ไม่รู้จะเปลี่ยนแปลงไปทำไม

• อยู่เฉยๆ ไม่ใช่เรื่องของตน พนักงานที่อ้างว่ารักองค์กร ก็มักจะเป็นพวกที่เวลาองค์กรมีปัญหา ก็มักจะอยู่เฉยๆ ไม่เข้ามาช่วยเหลืออะไร ยิ่งไปกว่านั้นในบางครั้งยังทำให้องค์กรยิ่งแย่ไปกว่าเดิม เข้าทำนองว่าซ้ำเติมองค์กรตนเอง นอกจากนั้นมักจะมีทัศนคติแบบว่า ไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันไม่เกี่ยว เวลาที่องค์รประสบกับปัญหา ก็เผ่นก่อน โดยไม่สนใจว่า จะมีส่วนเข้ามาช่วยเหลือองค์กรได้อย่างไร

• ชอบนินทาองค์กรให้คนอื่นฟัง พนักงานที่อยู่นานอย่างเดียว แต่ไม่รักองค์กรเลย ก็มักจะชอบนินทาองค์กรที่ตนเองทำงานอยู่นี่แหละครับ ให้คนอื่นฟังว่า ไม่ดีอย่างไร มีสิ่งที่ต้องปรับปรุงมากมาย โน่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ใช่ ไม่มีอะไรดีเลยสักนิด แต่ก็แปลกที่ยังทำงานอยู่กับองค์กร ไม่ยอมไปไหน ส่วนใหญ่ก็เข้าข่ายที่ว่า ไปไหนไม่ได้ เพราะทัศนคติแบบนี้ คงไม่มีองค์กรไหนอยากรับเข้าทำงานแน่นอนครับ

การที่องค์กรของเราไม่ค่อยมีพนักงานลาออกเลย หรือตัวชี้วัดทางด้านอัตราการลาออกดีมาก ก็ไม่ได้หมายความว่า พนักงานของเราจะรักองค์กรทุกคนนะครับ ลองสังเกตพฤติกรรมของพนักงานดูก็ได้ครับ ว่าเข้าข่ายไหนตามลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น

ถ้าส่วนใหญ่เข้าข่ายหลัง แสดงว่า พนักงานกลุ่มนี้ไม่มีที่จะไปมากกว่าครับ



บทความโดย : คุณประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ประกาศบทความโดย : www.prosofthrmi.com
 8240
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ก่อนที่จะนำรายได้ต่างๆ มาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่ารายได้เป็นรายได้ประเภทไหน สามารถหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้เท่าไหร่ มีค่าลดหย่อนอะไรบ้าง
การอบรมพนักงาน เป็นกิจกรรมที่สำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงทักษะและความรู้ของพนักงานในองค์กร ให้มีศักยภาพมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือ HR จึงควรให้ความสำคัญในการวางแผนและดำเนินการอบรมกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับงานของพนักงานอย่างเป็นระบบ โดยการอบรมนี้อาจจะเป็นการฝึกฝนทักษะทั้งในทางเทคนิค การพัฒนาทักษะการสื่อสาร การบริหารเวลา หรือแม้กระทั่งการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำและการทำงานเป็นทีม เพื่อปรับตัว เรียนรู้ระบบการทำงานขององค์กร และนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาองค์กรให้ประสบความสำเร็จ ให้สำเร็จลุล่วงกับเป้าหมายที่องค์กรตั้งไว้
SMART คือหลักในการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและมีแนวทางปฎิบัติที่เป็นรูปธรรม ทำให้เห็นทิศทางในการปฎิบัติที่เข้าใจได้ง่าย และนำไปปฎิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคำว่า SMART นั้นเกิดมาจากแนวคิดดังนี้ ตลอดจนมีวิธีการปฎิบัติเพื่อการตั้งเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพ
ไหน ๆ แล้วได้ยินคำว่า KPI กันอยู่บ่อยครั้ง ในฐานะคนทำงานคงหลีกหนีเรื่องเหล่านี้ไม่พ้นอย่างแน่นอน เราลองมาดูไปพร้อม ๆ กันว่า ดัชนีชี้วัดความสำเร็จหรือ KPI ที่เราคุ้นเคยกันมานานนั้น จริง ๆ แล้วคืออะไรกันแน่ เป็นสิ่งที่น่ากลัวหรือต้องกังวลมากน้อยแค่ไหน ในเมื่อหลบไม่พ้นก็หาทางเผชิญหน้ากันแบบรู้จักฉันรู้จักเธอกันไปเลย
ก่อนที่เราจะลงลึกถึงความแตกต่างของสลิปเงินเดือนระหว่างพนักงานสัญญาจ้าง ฟรีแลนซ์ และพนักงานประจำ มาทำความเข้าใจความหมายของคำศัพท์เหล่านี้ก่อน
Agile - Way of Work เป็นการทำงานในทีมที่ประกอบไปด้วยบุคลากรจากหลายสายงาน โดยเน้นการสื่อสารระหว่างบุคคลเพื่อสร้างความเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้นและเปลี่ยนวิธีการทำงาน จากการกำหนดเป้าหมายระยะยาวแบบมุ่งไปครั้งเดียว เป็นแบบระยะสั้นๆ เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์