Employee Engagement สรุปแล้วเป็นหน้าที่ของใคร

Employee Engagement สรุปแล้วเป็นหน้าที่ของใคร



ทุกวันนี้คำว่า Employee Engagement ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในแวดวงการบริหารทรัพยากรบุคคล มีองค์กรขนาดใหญ่หลายแห่งที่พยายามจะสร้างความผูกพันของพนักงานให้เกิดขึ้นในองค์กร เพราะต่างก็เชื่อว่า ถ้าพนักงานมีความผูกพันต่อองค์กรแล้ว ผลงานพนักงานก็จะดีขึ้น และจะส่งผลต่อผลงานขององค์กรด้วย

แต่พอถึงเวลาที่จะสร้าง Engagement จริงๆ ในองค์กร ก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า ใคร และหน่วยงานใด ที่จะเป็นผู้รับผิดชอบงานนี้ในองค์กร ส่วนใหญ่หน่วยงานที่ถูกมองเป็นหน่วยงานแรกว่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบก็คือ ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลขององค์กรนั่นเอง

พอถูกมอบหมายให้ดำเนินการเรื่องนี้ ฝ่ายบุคคลก็ดำเนินการสำรวจความรู้สึกผูกพันของพนักงานในองค์กร และนำเอาผลที่ได้มาเพื่อปรับปรุงสิ่งที่ทำให้พนักงานรู้สึกไม่ค่อยดีต่อบริษัท

จากนั้นฝ่ายบุคคลก็เริ่มวางแผนที่จะทำให้คะแนนความผูกพันของพนักงานสูงขึ้นกว่าเดิม จากที่สำรวจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ภาวะผู้นำของผู้บริหาร นโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัท ระบบบริหารค่าตอบแทน ฯลฯ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ คะแนนความผูกพันของพนักงานในองค์กรไม่ได้สูงขึ้นเลย กลับแย่ลงด้วยซ้ำไป คำถามก็คือ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทั้งๆ ที่ฝ่ายบุคคลก็พยายามที่จะดำเนินการสร้างความผูกพันให้เกิดขึ้นอย่างเต็มที่

คำตอบก็คือ การสร้างความผูกพันของพนักงานในองค์กรให้เกิดขึ้นได้จริงๆ นั้น ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายบุคคลฝ่ายเดียว จำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือกับทุกคนในองค์กร

• CEO และผู้บริหารระดับสูงขององค์กร คนแรกที่จะต้องให้การสนับสนุนในการสร้างความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรก็คือ ผู้นำสูงสุดขององค์กร และทีมผู้บริหารรองๆ ลงมานั่นเองครับ การสนับสนุนนี้ไม่ใช่แค่เพียงการพูดเฉยๆ ว่า ทำสิ แล้วก็ทำตัวเหมือนเดิมทุกอย่างครับ แต่จะต้องเป็นการสนับสนุนโดยการยอมเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน เปลี่ยนแปลงความคิด และแนวทางในการบริหารงานบริหารคนในองค์กรอย่างเต็มที่ เพราะถ้าขาดการสนับสนุนจากผู้บริหารสูงสุดแล้ว เรื่องของ Engagement จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยครับ

• ผู้บริหารระดับกลาง และหัวหน้างาน นอกจากผู้บริหารระดับสูงแล้ว ผู้บริหารระดับกลาง และหัวหน้างานทุกระดับ ก็ต้องให้ความร่วมมือด้วยเช่นกัน เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว ความผูกพันของพนักงานจะเกิดขึ้นได้ส่วนหนึ่งก็มาจากบุคคลที่อยู่ใกล้ชิด พนักงาน ซึ่งก็คือ หัวหน้างานโดยตรงนั่นเอง ที่จะต้องมีการปรับปรุงพฤติกรรมในการบริหารงานและบริหารคน ให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นนั่นเอง ปัจจัยที่ทำให้พนักงานเกิดความรู้สึกผูกพันต่อองค์กรเป็นปัจจัยแรกๆ เลย ก็คือ เรื่องของ ภาวะผู้นำ และการเป็นหัวหน้างานที่ดี ถ้าขาดสองปัจจัยนี้ ความผูกพันของพนักงานก็เกิดขึ้นได้ยากเช่นกัน

• ฝ่ายทรัพยากรบุคคล หน่วยงาน HR นี้ มักจะถูกมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพสำหรับการสร้างความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร เพราะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องของทรัพยากรบุคคลขององค์กรโดยตรง ซึ่งส่วนใหญ่ ก็เป็นเจ้าภาพงานนี้โดยตรงอยู่แล้ว และจะต้องทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานกลาง รวมทั้งเป็นผู้กระตุ้นผู้บริหารทุกระดับขององค์กรในเรื่องต่างๆ ที่จะส่งผลต่อความผูกพันของพนักงาน สำหรับบางหน่วยงานที่ฝ่ายบุคคลเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพนักงานมาโดยตลอด ก็คงต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน แนวทางในการบริหารทรัพยากรบุคคลเพื่อให้พนักงานเกิดความรู้สึกผูกพัน และรู้สึกว่าฝ่ายบุคคลได้ให้ความช่วยเหลือเขาจริงๆ ไม่ใช่มัวแต่คอยจับผิดพนักงานแต่เพียงอย่างเดียว

ถ้าอยากให้พนักงานในองค์กรเกิดความรู้สึกผูกพันต่อองค์กรอย่างแท้จริง ก็คงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายในองค์กร ไม่ใช่แค่เพียงฝ่ายบุคคลครับ มิฉะนั้นไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม คะแนนความผูกพันพนักงานก็ไม่มีทางเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างแน่นอน

ผู้บริหารคนอื่น อาจจะสงสัยว่าทำไม่เรื่องนี้ตนเองจะต้องมานั่งรับผิดชอบด้วย เพราะคนที่ทำหน้าที่บริหารคนก็คือ ฝ่ายบุคคล ที่ควรจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องความผูกพันของพนักงานทั้งหมด แต่อย่าลืมนะครับว่า ถ้าคะแนนความผูกพันออกมาบอกกับเราว่า สิ่งที่ทำให้พนักงานยังไม่รู้สึกผูกพันกับองค์กรก็คือ หัวหน้างานและผู้จัดการที่ไม่เคยดูแลเอาใจใส่พนักงานเลย มองพนักงานเหมือนพนักงานเป็นหุ่นยนต์มากกว่า

ถ้าเหตุผลเป็นดังนี้ ฝ่ายบุคคลเก่งแค่ไหนก็ทำอะไรกับคะแนนความผูกพันพนักงานไม่ได้หรอกครับ เพราะสุดท้ายการเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มาจากหัวหน้างานและผู้จัดการคนนั้นมากกว่า โดยมีความคิดไปในทางเดียวกันว่า เรากำลังจะสร้างความผูกพันของพนักงาน เพื่อให้ผลงานพนักงานดีขึ้น และผลงานขององค์กรก็จะดีขึ้นด้วย



บทความโดย : คุณประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ประกาศบทความโดย : www.prosofthrmi.com
 6161
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ก่อนที่จะนำรายได้ต่างๆ มาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่ารายได้เป็นรายได้ประเภทไหน สามารถหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้เท่าไหร่ มีค่าลดหย่อนอะไรบ้าง
การอบรมพนักงาน เป็นกิจกรรมที่สำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงทักษะและความรู้ของพนักงานในองค์กร ให้มีศักยภาพมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือ HR จึงควรให้ความสำคัญในการวางแผนและดำเนินการอบรมกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับงานของพนักงานอย่างเป็นระบบ โดยการอบรมนี้อาจจะเป็นการฝึกฝนทักษะทั้งในทางเทคนิค การพัฒนาทักษะการสื่อสาร การบริหารเวลา หรือแม้กระทั่งการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำและการทำงานเป็นทีม เพื่อปรับตัว เรียนรู้ระบบการทำงานขององค์กร และนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาองค์กรให้ประสบความสำเร็จ ให้สำเร็จลุล่วงกับเป้าหมายที่องค์กรตั้งไว้
SMART คือหลักในการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและมีแนวทางปฎิบัติที่เป็นรูปธรรม ทำให้เห็นทิศทางในการปฎิบัติที่เข้าใจได้ง่าย และนำไปปฎิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคำว่า SMART นั้นเกิดมาจากแนวคิดดังนี้ ตลอดจนมีวิธีการปฎิบัติเพื่อการตั้งเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพ
ไหน ๆ แล้วได้ยินคำว่า KPI กันอยู่บ่อยครั้ง ในฐานะคนทำงานคงหลีกหนีเรื่องเหล่านี้ไม่พ้นอย่างแน่นอน เราลองมาดูไปพร้อม ๆ กันว่า ดัชนีชี้วัดความสำเร็จหรือ KPI ที่เราคุ้นเคยกันมานานนั้น จริง ๆ แล้วคืออะไรกันแน่ เป็นสิ่งที่น่ากลัวหรือต้องกังวลมากน้อยแค่ไหน ในเมื่อหลบไม่พ้นก็หาทางเผชิญหน้ากันแบบรู้จักฉันรู้จักเธอกันไปเลย
ก่อนที่เราจะลงลึกถึงความแตกต่างของสลิปเงินเดือนระหว่างพนักงานสัญญาจ้าง ฟรีแลนซ์ และพนักงานประจำ มาทำความเข้าใจความหมายของคำศัพท์เหล่านี้ก่อน
Agile - Way of Work เป็นการทำงานในทีมที่ประกอบไปด้วยบุคลากรจากหลายสายงาน โดยเน้นการสื่อสารระหว่างบุคคลเพื่อสร้างความเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้นและเปลี่ยนวิธีการทำงาน จากการกำหนดเป้าหมายระยะยาวแบบมุ่งไปครั้งเดียว เป็นแบบระยะสั้นๆ เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์